หิมะ
หิมะ เกิดจากละอองน้ำในชั้นบรรยากาศ
เกิดการเกาะรวมตัวกันหรือที่เรียกว่าการควบแน่น (Deposition - การที่ไอน้ำ
เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งโดยไม่ผ่านสถานะของเหลว Process กลับกันเรียกว่า
Sublimation) ในชั้นบรรยากาศ ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 C (32 F) และตกลงมา
ในสภาวะความชื้นที่เหมาะสม
อยู่ในรูปของผลึกน้ำแข็งจำนวนมากเรียกว่าเกล็ดละอองหิมะ
จับตัวรวมกันเป็นก้อน หิมะจึงมีเนื้อที่หยาบเป็นเกล็ด
และมีโครงสร้างที่กลวงจึงมีความนุ่มเมื่อสัมผัส
เกล็ดหิมะจะมีลักษณะเป็นคล้ายรูปดาว
โดยส่วนที่ยื่นออกมาของเกล็ดหิมะนั้น จะเป็นสมมาตรแบบหกด้านเสมอ
เนื่องมาจากเกล็ดน้ำแข็งปกตินั้นมีโครงสร้างผลึกหกเหลี่ยม(หรือที่รู้จักกัน
ในชื่อ ice Ih) ดังรูป

ภาพแสดงโครงสร้างผลึกน้ำแข็ง
ที่มา http://campus.sanook.com
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ที่มา http://campus.sanook.com
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
คำอธิบายถึงความสมมาตรของเกล็ดหิมะนั้นโดยทั่วไป มีอยู่ 2 คำอธิบาย คือ
- 1
อาจเป็นไปได้ที่จะมีการสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างส่วนที่ยื่นออก
ของเกล็ดหิมะ ซึ่งส่งผลให้การงอกออกของแต่ละก้านนั้นส่งผลถึงกัน
ตัวอย่างของรูปแบบที่ใช้ในการสื่อสารนั้นอาจเป็น ความตึงผิว หรือ
โฟนอน(phonon)
- 2 คำอธิบายที่สองนี้จะค่อนข้างแพร่หลายกว่า คือ แต่ละก้านของเกล็ดหิมะนั้นจะงอกออกโดยไม่ขึ้นแก่กัน ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิ ความชื้น และสภาพแวดล้อมอื่นๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบกับขนาดของเกล็ดหิมะแล้วเชื่อว่าสภาพแวดล้อมจะมีสภาพที่เหมือน กันในช่วงขนาดสเกลของเกล็ดหิมะ ซึ่งส่งผลให้การงอกออกของก้านในแต่ละด้านนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหมือนกัน จึงทำให้ลักษณะการงอกออกนั้นเหมือนกัน ในลักษณะเดียวกับที่รูปแบบการเติบโตของวงแหวนอายุในแกนของต้นไม้ในสภาพ แวดล้อมเดียวกันจะมีรูปร่างเหมือนๆกัน ความแตกต่างของสภาพแวดล้อมที่ระดับสเกลใหญ่กว่าเกล็ดหิมะนั้นส่งผลให้รูปของ เกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกัน
- 2 คำอธิบายที่สองนี้จะค่อนข้างแพร่หลายกว่า คือ แต่ละก้านของเกล็ดหิมะนั้นจะงอกออกโดยไม่ขึ้นแก่กัน ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิ ความชื้น และสภาพแวดล้อมอื่นๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบกับขนาดของเกล็ดหิมะแล้วเชื่อว่าสภาพแวดล้อมจะมีสภาพที่เหมือน กันในช่วงขนาดสเกลของเกล็ดหิมะ ซึ่งส่งผลให้การงอกออกของก้านในแต่ละด้านนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหมือนกัน จึงทำให้ลักษณะการงอกออกนั้นเหมือนกัน ในลักษณะเดียวกับที่รูปแบบการเติบโตของวงแหวนอายุในแกนของต้นไม้ในสภาพ แวดล้อมเดียวกันจะมีรูปร่างเหมือนๆกัน ความแตกต่างของสภาพแวดล้อมที่ระดับสเกลใหญ่กว่าเกล็ดหิมะนั้นส่งผลให้รูปของ เกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม
แนวความคิดที่ไม่มีเกล็ดหิมะใดที่มีรูปร่างเหมือนกันนั้นไม่ถูกต้อง
เกล็ดหิมะสองเกล็ดนั้นมีโอกาสเหมือนกันได้ เพียงแต่โอกาสนั้นน้อยมาก
American Meteorological
Societyได้บันทึกการค้นพบเกล็ดหิมะที่มีรูปร่างเหมือนกันโดย แนนซี่
ไนท์(Nancy Knight) ซึ่งทำงานที่National Center for Atmospheric Research
ผลึกที่ค้นพบนั้นไม่เชิงเป็นเกล็ดหิมะซะทีเดียวที่เป็นรูป
ปริซึมหกเหลี่ยมกลวง (hollow hexagonal prism)
*หลายคนเข้าใจว่า อากาศจะต้องเย็นจัดหรือหนาวจัด จึงจะสามารถเกิดหิมะได้
แต่ในความเป็นจริง หิมะสามารถเกิดขึ้นได้ หากในบรรยากาศขณะนั้น
มีอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่ เหมาะสม ดังนั้นขณะที่มีการเกิดหิมะ
อุณหภูมิเหนือผิวโลก จึงไม่จำเป็นต้องเย็นจัด
นั่นคือมีความเย็นไม่แตกต่างอย่าง Significant
จากอุณหภูมิในวันที่หิมะไม่ตก
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก http://campus.sanook.com วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
อันนี้เยี่ยม ! !!
ตอบลบ